ชื่อ:โคลงเคลง
ชื่อวิทยาศาสตร์
:Melastomamalabathricum L. subsp.
malabathricum
ชื่อวงศ์ :Melastomataceae
ชื่อเรียกอื่น :กะดูดุ (มลายู-ปัตตานี); กาดูโด๊ะ
(มลายู-สตูล, ปัตตานี); โคลงเคลง,
โคลงเคลงขี้นก, โคลงเคลงขี้หมา (ตราด);
ซิซะโพ๊ะ (กะเหรี่ยง-กาญจนบุรี); ตะลาเด๊าะ
(กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน); เบร์, มะเหร,
มังเคร่, มังเร้, สาเร,
สำเร (ภาคใต้); มายะ (ชอง-ตราด); อ้า, อ้าหลวง (ภาคเหนือ)
ลักษณะ : ไม้พุ่ม สูงถึง 1-3 ม. กิ่งเป็นเหลี่ยม ปกคลุมด้วยเกล็ดแบบเรียบหนาแน่น ใบ
เดี่ยวเรียงตรงข้าม รูปใบหอก กว้าง 1.7-5 ซม. ยาว 4-14 ซม. ปลายแหลม หรือเรียวแหลม โคนแหลม หรือกลม มีขนแข็งเอนทั้งสอนด้าน
แต่เห็นชัดทางด้านล่าง โดยเฉพาะบนเส้นใบ มีเส้นใบออกจากโคน ใบไปจรดปลายใบ 3-5 เส้น ก้านใบยาว 0.5-2 ซม. ดอก สีม่วง ออกเป็นช่อ มี
3-7 ดอก ตามปลายยอดและตามง่ามใบบนๆ
ดอกมีกลีบเลี้ยงและกลีบดอกอย่างละ 5 กลีบ พบน้อย ที่มี 4 หรือ 6 กลีบใบประดับบางครั้งใหญ่และเห็นชัด ยาวถึง 20มม. ด้านนอกโดยเฉพาะบนเส้นกลางใบมีเกล็ดแบนราบ สีขาว หรือสีแดงเรื่อ
ถ้วยรองดอกยาว 5-9มม. ปกคลุมด้วยเกล็ดแบบเรียบ ยาว 1-3มม. กลีบเลี้ยงเชื่อมกัน ปลายแยกเป็นพูรูปใบหอก ยาว 5-13มม. กลีบดอกสีม่วง ยาว 25-35(-40) มม. เกสรเพศผู้มี 10 อัน บางครั้งพบ 8 หรือ 12 อัน
มีรูปร่าง 2 แบบ เกสรเพศผู้ด้านนอกอับเรณูสีม่วง อับเรณูยาว 7-9(-14)
มม. มีแกนอับเรณูยาว 4-8มม.
ส่วนอับเรณูด้านในยาว 5-6(-11) มม. สีเหลือง
แกนอับเรณูไม่ยาวออกมามากนัก รังไข่ติดแน่นกับฐานดอก ที่ยอดปกคลุมด้วยขนแข็ง มี 5 ช่อง ผล แห้งแตก ยาว 5-12 มม. เมื่อแก่แตกตามขวาง
เนื้อนุ่ม สีม่วงดำ เมล็ด เล็ก
การกระจายพันธุ์: มีการกระจายพันธุ์อยู่ในเขตร้อนของทวีปเอเชีย
ในประเทศไทยพบได้ทั่วทุกภาค พบตามชายป่าที่ชุ่มด้วยน้ำ ริมลำน้ำ
ประโยชน์ : เป็นยาพื้นบ้าน แก้คอพอก
แก้อาเจียนเป็นเลือด และถ่ายเป็นเลือด ราก แก้ร้อนในกระหายน้ำ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น